บทความสุขภาพ, Movell, บทความสุขภาพข้อและกระดูก
เก๊าท์ VS เข่าเสื่อม เช็กง่ายๆ ก็รักษาอาการปวดเข่าได้ไว
เก๊าท์ ไม่ใช่เข่าเสื่อม รู้หรือไม่ว่า 2 โรคนี้แม้จะจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ “ข้ออักเสบ” เหมือนกัน จนบางคนอาจคิดว่าสามารถใช้วิธีการรักษาฟื้นฟูที่คล้าย ๆ กัน แต่ 2 โรคนี้ มีสาเหตุและการรักษาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มาดูกันครับว่า อาการปวดเข่าของคุณนั้น มาจากโรคอะไรกันแน่
เก๊าท์ กับ เข่าเสื่อม อาการใกล้เคียงที่แตกต่างกัน
เก๊าท์ และ เข่าเสื่อม มีอาการที่คล้ายคลึงกันคือเจ็บปวดทรมานบริเวณข้อเข่า ทำให้การขยับหรือเคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถต่าง ๆ ไม่คล่องตัวเหมือนปกติ ปวดเข่าเมื่อใช้งานข้อเข่าหนัก ลุก-นั่งยาก เดินไกล ๆ ไม่ไหว ยืนนาน ๆ ไม่ได้ ขึ้น-ลงบันไดลำบาก ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะข้อเข่า คือข้อต่อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่พยุงและแบกรับน้ำหนักตัวของเรา ดังนั้นการดูแลข้อเข่าอย่างถูกวิธี แก้จากสาเหตุอย่างถูกต้อง จะทำให้ฟื้นฟูข้อเข่าได้อย่างเห็นผลตรงจุด
เก๊าท์ เกิดจาก กรดยูริก
สาเหตุส่วนใหญ่ของการเป็นโรคเก๊าท์ มาจากการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ยอดผัก สัตว์ปีก โดยปกติร่างกายจะมีการสลายและขับกรดยูริกออกจากร่างกายอย่างสมดุล แต่หากเรามีกรดยูริกในเลือดสูงเกินเกณฑ์เป็นเวลานาน กรดยูริกจะสะสมและตกผลึกภายในข้อต่อตามร่างกายรวมถึงข้อเข่า สร้างอาการอักเสบ ปวดบวมแดงภายในข้อต่อ
เก๊าท์ อาการโดดเด่น ที่ต่างจาก เข่าเสื่อม มีดังนี้
- พบในเพศชายและเพศหญิงในสัดส่วนเท่า ๆ กัน
- มีอาการปวดบวมแดงอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
- เกิดกับข้อต่อต่างๆตามร่างกาย แต่จะเกิดเพียงข้างเดียว
เข่าเสื่อม เกิดจาก กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า เสื่อมสภาพ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนสำคัญภายในข้อเข่า เรียกว่า กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า เป็นแผ่นสีขาวที่มีความยืดหยุ่น เรียบลื่นมันวาว หุ้มอยู่ที่ปลายกระดูกของกระดูกขาท่อนบนและปลายกระดูกขาท่อนล่าง คอยรับแรงกระแทกและการเสียดสีขณะที่ข้อเข่าขยับ ทำให้เกิดการสึกหรอตามอายุการใช้งาน หรือสึกหรอก่อนวัยอันควรหากมีการใช้งานข้อเข่าอย่างหนัก เช่น ผู้ที่ต้องทำงานยกของหนักเป็นประจำ ผู้ที่ต้องขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ผู้ที่สวมส้นสูงเป็นเวลานาน ผู้ที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทก ผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บข้อเข่า เมื่อข้อเข่าไม่มีกระดูกอ่อนผิวข้อเข่าปกป้องอีกต่อไป กระดูกท่อนบนและท่อนล่างจึงเสียดสีกันขณะที่เราเคลื่อนไหว สร้างความเจ็บปวด เสียวแปล๊บข้อเข่า เข่าลั่น เข่าติด เข่าฝืดยืดไม่ออก อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณจาก โรคเข่าเสื่อม นั่นเอง
เข่าเสื่อม อาการโดดเด่น ที่ต่างจาก เก๊าท์ มีดังนี้
- มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- มีอาการเข่าลั่น เข่าฝืดตึง เสียวแปล๊บ ที่บริเวณข้อเข่าด้านหน้า
- สามารถเกิดอาการได้ทั้ง 2 ข้าง พร้อม ๆ กัน
- อาการค่อยเป็นค่อยไป และลุกลามจนถึงขั้นเข่าโก่งผิดรูป
ปวดเข่า แต่ไม่ใช่ เก๊าท์ ปัญหานี้มีที่มา
จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่า เข่าเสื่อม เกิดจากการสึกหรอ เสื่อมสภาพของ “กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า” ชิ้นส่วนสำคัญในการรับแรงกระแทกภายในข้อเข่า ซึ่งการเสื่อมสภาพนี้ มีสาเหตุมาจากหลาย ๆ ปัจจัยด้วยกัน
- เข่าเสื่อม จากอายุที่มากขึ้น
ทุกครั้งที่เราขยับข้อเข่าในอิริยาบถต่าง ๆ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ลุกยืน นั่ง เดินขึ้นบันได กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า จะต้องคอยรับแรงเสียดสีหรือแรงกระแทกตลอดเวลาที่เราเคลื่อนไหว เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนผิวข้อเข่าที่ใช้งานมาหลายสิบปี ก็ย่อมเสื่อมสลาย สึกกร่อนไปตามกาลเวลา
- เข่าเสื่อม จากพฤติกรรมผิด ๆ
เข่าเสื่อม ที่เกิดก่อนวัยอันควร ในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มาจาก “ท่านั่ง” ทำร้ายข้อเข่าที่เรานั่งจนติดเป็นนิสัย เช่น นั่งขัดสมาธิ นั่งไขว่ห้าง นั่งพับขาเข้าใต้เก้าอี้ นั่งยอง นั่งพับเพียบ คุกเข่า บิดเข่าในลักษณะที่ฝืนทิศทาง ท่านั่งเหล่านี้เมื่อนั่งบ่อย ๆ นั่งนาน ๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง จะสร้างแรงดึงภายในข้อเข่ามากกว่าปกติ 5 – 10 เท่า ทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อเข่ารับภาระหนักมากกว่าเดิมจนเสื่อมสลายเร็วขึ้น
- เข่าเสื่อม เพราะน้ำหนักตัวเยอะ
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน มีภาวะอ้วน ลงพุง มีค่าดรรชนีมวลกายหรือค่า BMI มากกว่า 25 นอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ มีโรคภัยอื่น ๆ เข้ามาแทรกซ้อนได้ง่าย ยังส่งผลให้ข้อเข่าต้องแบกรับน้ำหนักตัวมากกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ ชิ้นส่วนภายในข้อเข่าทั้งกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า เส้นเอ็น กระดูก ต้องรับภาระมากกว่าเดิม เป็นการเร่งเวลาให้เข่าเสื่อมเร็วขึ้น
- เข่าเสื่อม จากการใช้งานหนัก
ลักษณะงานที่ทำในชีวิตประจำวัน อาจสร้างผลกระทบกับชิ้นส่วนสำคัญภายในข้อเข่า เช่น การยกของหนักบ่อย ๆ นั่งผิดท่าเป็นเวลานาน เดินขึ้นบันไดบ่อย ๆ ใส่ส้นสูงทั้งวัน ยืนทั้งวัน ทำให้ข้อเข่าถูกใช้งานหนักเกินความจำเป็น ถือเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงลักษณะการทำงานในแต่ละอาชีพ ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลข้อเข่ามากกว่าคนทั่วไป
- เข่าเสื่อม จากการบาดเจ็บข้อเข่ามาก่อน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบกับข้อเข่า เช่น เส้นเอ็นฉีกขาด กระดูกหัก ลูกสะบ้าแตก หมอนรองกระดูกอักเสบ ติดเชื้อในข้อเข่า ส่งผลให้เข่าเสื่อมเร็วขึ้นในอนาคต มักเกิดกับนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ๆ ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุหกล้มหรืออุบัติเหตุทางการขับขี่ จนข้อเข่าได้รับการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยไม่ได้รับการฟื้นฟูข้อเข่าให้คืนสู่สภาพปกติ
วิธีแก้ปวดเข่า หนีห่างจากโรคเข่าเสื่อม
เข่าเสื่อม สามารถชะลอและฟื้นฟูให้กระดูกอ่อนผิวข้อเข่ามีสภาพดีขึ้น กลับมาใช้งานข้อเข่าในชีวิตประจำวันได้คล่องตัว เพียงแต่ต้องดูแลข้อเข่าก่อนที่โรคเข่าเสื่อมจะเข้าสู่ระยะสุดท้าย
ระยะสุดท้ายของ โรคเข่าเสื่อม กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า จะเสียหายเกินกว่า 60% กระดูกข้อเข่าแทบจะเสียดสีกันตลอดเวลาแม้ไม่ได้ขยับร่างกายก็ตาม ทำให้มีอาการปวดข้อเข่าอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ข้อเข่าโก่งงอผิดรูป และอาจส่งผลให้ข้อเท้าและข้อสะโพกบิด กระดูกสันหลังคดตามไปด้วย วิธีเดียวในการรักษาคือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่าย 6-7 หลัก แถมยังมีอายุการใช้งาน 10-15 ปี เท่านั้น ดังนั้นการดูแลข้อเข่าตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนจะเข้าสู่ระยะสุดท้าย ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยวิธีปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่า คุกเข่า พับเพียบ ไขว่ห้าง นั่งยอง เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะนั่งทานข้าว นั่งทำงาน นั่งเล่น ควรนั่งบนเก้าอี้หรือนั่งเหยียดขา ไม่ให้ข้อเข่า เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ถูกยืดตึงจนเกินไป
- หากมีอาการปวดเข่าจนทนไม่ไหว สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้โดยการประคบร้อน ควรใช้ไม้เท้าพยุงขณะเดิน เพื่อให้น้ำหนักลงไปที่ข้อเข่าให้น้อยที่สุด ลดการซ้ำเติมบาดแผลภายใน
- ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆข้อเข่า เพื่อช่วยรับแรงต่าง ๆ ในการเคลื่อนไหว ไม่ให้ภาระตกไปที่ข้อเข่าเพียงจุดเดียว โดยการออกกำลังกายนั้นต้องเป็นท่าเฉพาะที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อแบบไม่ทำให้ข้อเข่าเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม นอกจากจะได้สุขภาพข้อเข่าที่ดีแล้ว ยังทำให้สุขภาพองค์รวมดีขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงโรคเบาหวาน ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ เป็นต้น
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะอาหารบางประเภท เช่น เนื้อแดง อาหารไขมันสูง อาหารทอด น้ำตาลสูง โซเดียมสูง เครื่องดื่มกาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะสร้างการอักเสบเพิ่มขึ้นภายในข้อเข่า
ลดปวดข้อ ลดเสี่ยงเข่าเสื่อม ด้วยนวัตกรรมจากฝรั่งเศส
หาตัวช่วยในการบำรุงข้อเข่า เพราะกระดูกอ่อนผิวข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ ต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมดูแลข้อเข่าใหม่ล่าสุดจาก ฝรั่งเศส กับผลิตภัณฑ์ โมเวล วิจัยและพัฒนาทางการแพทย์มากว่า 20 ปี ได้สารสกัด โพรเมอริม ไบโอแอคทีฟ คอลลาเจนยุคใหม่ที่มีโครงสร้างโมเลกุลพิเศษ เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวเฉพาะโมเวล มีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของเซลล์ข้อเข่า ทำให้สารสกัดโพรเมอริม ลงล็อกกับการเข้าเสริมสร้างข้อเข่าได้เป็นอย่างดี เห็นผลครอบคลุมกว่าที่เคยมีมา เริ่มจากการช่วยลดการอักเสบภายในข้อเข่า สมานเนื้อเยื่อที่เสียหายภายในข้อเข่า กระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ใน 7 วัน ยืนยันผลการทดสอบในคนจริงจากสถาบันทางการแพทย์ระดับสากล มั่นใจในมาตรฐานและคุณภาพ ด้วยการถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ และได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลก
- แอดไลน์ @movell คลิก https://line.me/ti/p/~@movell
- โทร 02-399-5944
Movell ยินดีและพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาข้อและกระดูก
ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
ลดราคา!
ลดราคา!
ลดราคา!
หน้าแรก