รู้ไหม ผู้ป่วยไขมันพอกตับกว่า 20% มักมีปัญหาตับอักเสบตามมา ซึ่งเมื่อพบแล้ว ก็มักมีภาวะตับแข็ง และมะเร็งตามมาอีก จุดเริ่มต้นของปัญหานี้เกิดจากจุดเล็กๆ นั่นก็คือ “การกิน” วันนี้ คุณอาจจำไม่ได้ว่าเมื่อวันก่อนๆ คุณกินอะไรไปบ้าง กินแล้วอิ่มแล้วก็จบ แต่สิ่งที่ไม่จบคือตับ อร่อยปากลำบากตับทุกที เมื่อมีไขมันตกค้างมากๆ ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด ตับต้องแบกรับภาระไขมันในรูปไตกลีเซอไรด์ จนเกิดภาวะไขมันพอกตับ และอาจเสี่ยงถึงตับแข็ง และมะเร็งได้ ในยุคที่อะไรๆ ก็สามารถหากินได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว รายล้อมไปด้วยของกินแสนอร่อยเต็มไปหมด เราจึงไม่ทันได้คิดทุกครั้งก่อนที่จะนำอะไรเข้าปาก ปิ้งย่างไขมันสูง ชาบูเนื้อเน้นๆ ขนมหวานน้ำตาลฉ่ำๆ ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้หากคุณกินเรื่อยๆ เป็นประจำ วันนี้เราจึงขอแนะนำ 4 เมนูสุขภาพ คลีนๆ ที่ช่วยเป็นอาหารเสริมบำรุงตับ ลดไขมันสะสมในตับ ปรับระดับคอเลสเตอรอล ที่สามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
4 เมนูสุขภาพ
1.ข้าวหน้าอกไก่ผักรวม
เมนูทำง่ายไขมันต่ำ อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ต่อตับ ลดระดับไขมัน จากวัตถุดิบชั้นดีอย่าง ข้าวกล้อง อกไก่ อโวคาโด้ บล็อกโคลี่
- ข้าวกล้อง
ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ทำให้อุดมด้วยสารอาหารมากมาย มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีวิตามินบีรวม ช่วยสร้างไกลโคเจนในตับ รวมถึงช่วยลดการสะสมของไขมัน ฟื้นฟูตับให้แข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ - อกไก่
ส่วนของเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูง และที่สำคัญไขมันต่ำ ซึ่งจะช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย และที่สำคัญมีซีลีเนียม ที่ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ - อโวคาโด้
หนึ่งในผลไม้ที่มีประโยชน์มาก เพราะเป็นแหล่งของไขมันดี นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยกลูต้าไธโอน กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย และมีส่วนช่วยในการบำรุงตับให้ทำงานได้ดีอีกด้วย - บล็อกโคลี่
อุดมไปด้วยเอนไซม์ไมโรซิเนส กับสารซัลโฟราเฟน ที่เป็นตัวช่วยทำให้ตับขับสารพิษ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษในการต่อต้านมะเร็ง
2.สเต็กแซลมอนใส่หน่อไม้ฝรั่ง
เมนูนี้หลายๆ คนอาจจะชอบทานกันอยู่แล้วนะครับ แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าแซลมอนนั้นสามารถช่วยให้คุณหลีกหนีจากภาวะไขมันพอกตับได้
- แซลมอน
ในตัวแซลมอนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ไขมันจะเกาะเส้นตามเส้นเลือด รวมไปถึงภาวะไขมันพอกตับได้นั่นเอง - หน่อไม้ฝรั่ง
เป็นอาหารที่มีกลูต้าไธโอนอยู่มาก จึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย รวมไปถึงมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงมะเร็งได้อีกด้วย
3.ซุปหัวผักกาดกับอกไก่
เมนูกินสบายไม่หนักท้อง และไม่หนักตับ มีแต่ประโยชน์เน้นๆ เพราะมีทั้ง อกไก่ กะหล่ำปลี มะเขือเทศ หัวไชเท้า ผักกาด ซึ่งเป็นวัตุดิบที่ช่วยบำรุงตับ จะกินเป็นซุปก็มีประโยชน์ หรือจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ช่วยให้อยู่ท้องพอดีๆ
- มะเขือเทศ
อุดมไปด้วยวิตามิน C ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ และลำไส้ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสามารถช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายออกไป ลดภาระการทำงานของตับได้ดี - หัวไชเท้า
มีส่วนช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกาย และช่วยลดระดับไขมัน คอเรสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยปกป้องตับจากสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ตับ ไม่ให้ตับถูกทำร้าย ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และมะเร็ง - ผักกาด
เป็นผักใบเขียวที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับ ช่วยในการล้างสารเคมีที่ตกค้างในตับ ฟื้นฟูตับให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.โยเกิร์ตข้าวโอ๊ตอัลมอนด์เบอร์รี่
ทุกคนคงทราบดีว่าโยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แต่หากจะทานทั้งที เราขอแนะนำให้เพิ่ม ข้าวโอ๊ต ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และ อัลมอนด์ เพราะนอกจากจะช่วยให้เมนูนี้มีเท็กซ์เจอร์และความอร่อยมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อตับไม่น้อยเลยล่ะ
- ข้าวโอ๊ต
มีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอล รวมถึงมีสารที่คล้ายกับเอนไซม์ตับอ่อนซึ่งทำให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเป็นปกติ ช่วยในการย่อยไขมัน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของตับและถุงน้ำดีไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป - ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน กรดกำมะถัน แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน E, B2 ที่นอกจากจะมีส่วนช่วยในการมองเห็น ยังช่วยลดไขมันในเลือด บำรุงตับให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้มีไขมันพอกตับมากขึ้นกว่าเดิมได้ - อัลมอนด์
มีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดระดับไขมันเลวในเลือดได้ ลดความเสี่ยงภาวะไขมันพอกตับ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด แต่ไม่ควรกินเกิน 14 เม็ด/วัน เพราะจะให้พลังงานสูงเกินจำเป็น