ประชากรทั่วโลกประสบกับปัญหา โรคตับ โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทำให้ร่างกายของเรารับสารพิษเข้าไปอย่างสม่ำเสมอโดยไม่รู้ตัว ทราบอีกทีก็อาจจะสายไปเสียแล้ว มาลองเช็คกันดูว่า ระยะ ตับอักเสบ ไหนที่ยังฟื้นฟูได้ และ “ตับของคุณ” เดินทางมาไกลถึงระยะไหน
นี่คือตับปกติ
ตามลักษณะกรรมพันธุ์เฉพาะบุคคล ทุกอย่างยังดูสดใส จนกระทั่ง . . .
เข้าสู่ระยะไขมันพอกตับ หรือ Steatosis
จะเริ่มมีไขมันสะสมอยู่มากกว่า 10% โดยผู้ที่อยู่ในระยะนี้ บางรายอาจจะแสดงอาการอ่อนเพลีย ท้องอืด ปวดท้อง หลับไม่สนิท แต่ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการ เพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อยับยั้งการเกิดโรคตับในระยะถัดไป
สู่ ระยะ ตับอักเสบ
ตับมีการทำงานที่ผิดปกติ โดยสามารถแบ่งอาการออกเป็น 2 ระยะ คือ โรคตับอักเสบเฉียบพลัน และโรคตับอักเสบเรื้อรัง โดยอาการของโรคตับอักเสบเฉียบพลันจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง มีไข้ ปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา เซลล์ตับถูกทำลาย ถ้าหากปล่อยไว้ให้พ้นระยะนี้ไป มันจะนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น
เกิด พังผืดในตับ
เป็นกระบวนการที่เกิดความผิดปกติกับ เซลล์ตับ ทำให้ตับไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ซึ่งหากมีพังผืดในตับระยะรุนแรง ก็จะเสี่ยงต่อการเกิด ตับแข็ง และการเป็น มะเร็งตับ ตามมา
ตับแข็ง
หลังจากเกิดการ ตับอักเสบเรื้อรัง เป็นเวลานาน จนทําให้เนื้อตับตายลง เต็มไปด้วยแผลเป็นมีเนื้อเยื่อพังผืดแทรกในตับเป็นจำนวนมากเกินกว่าตับจะรับไหว ทำให้ตับสูญเสียการทำงาน เกิดสภาวะแทรกซ้อนไปสู่ระยะสุดท้าย นั่นคือ มะเร็งตับ
มะเร็งตับ
ภัยเงียบที่คร่าชีวิต ผู้ป่วยมะเร็ง ชาวไทยมากที่สุด ผู้ป่วยหลายคน กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ลองตรวจเช็ค สุขภาพตับ แล้วใส่ใจดูแล แต่ไม่ใช่แค่ตับ รวมไปถึงสุขภาพรอบด้าน เพื่อให้คุณได้อยู่เคียงข้างคนที่รักคุณ ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องหันมาดูแล “หัวใจดวงที่ 2” ของตัวเอง ด้วยเฮฟฟีก้า ดูแลสุขภาพตับ เพียงวันละ 1 เม็ด ช่วยดูแลตับให้มีสุขภาพดี เมื่อสุขภาพตับดี ชีวิตดี๊ดีก็จะตามมา ชีวิตดีเริ่มต้นได้ที่ตับ